คุณกำลังทุ่มงบกับการ รับยิงแอด แต่ยังสงสัยอยู่ว่าโฆษณาที่ทำไปนั้นคุ้มจริงหรือเปล่า? คุณไม่ได้เจอปัญหานี้คนเดียว หลายธุรกิจก็ประสบปัญหาเดียวกัน คือไม่สามารถเชื่อมโยงค่าโฆษณาที่ใช้ไปกับรายได้ที่กลับมาได้ ทำให้ไม่มั่นใจว่าการยิงแอดนั้นสร้างการเติบโตจริงหรือไม่
คำตอบอยู่ที่ ROAS (Return on Ad Spend) ตัวชี้วัดสำคัญที่จะบอกคุณได้อย่างชัดเจนว่า “ทุก ๆ 1 บาทที่ลงไปในโฆษณา สร้างรายได้กลับมาเท่าไหร่” การเข้าใจและติดตาม ROAS คือวิธีที่ง่ายที่สุดในการวัดความคุ้มค่าของการ รับยิงแอด และทำให้มั่นใจว่างบที่ใช้ไปสร้างผลตอบแทนสูงสุดจริง ๆ
ที่ ConvertCake เราเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนข้อมูลให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ในบทความนี้เราจะอธิบายว่า ROAS คืออะไร วิธีคำนวณทำอย่างไร ทำไมจึงสำคัญกว่าที่คุณคิด พร้อมเผยกลยุทธ์เด็ด 7 ข้อที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการด้วยบริการ รับยิงแอด เพราะสำหรับเรา การเพิ่ม Conversion ที่ดี ทำให้มันเป็นเรื่องง่ายเหมือนกับการกินเค้กไปพร้อมกัน
Table of Contents
ROAS คืออะไร? ทำไมถึงเป็นหัวใจของการโฆษณาออนไลน์?
ROAS คืออะไร?
ROAS หรือ Return on Ad Spend คือหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของ Performance Marketing ที่ใช้วัดรายได้ที่เกิดขึ้นจริงจากทุก ๆ 1 บาท (หรือ 1 ดอลลาร์) ที่คุณลงทุนไปกับโฆษณา พูดง่าย ๆ คือมันช่วยบอกว่าแคมเปญโฆษณาของคุณสร้างยอดขายหรือรายได้กลับมาได้มีประสิทธิภาพแค่ไหน
ลองจินตนาการว่า คุณใช้เงิน 1 บาทในการยิงแอด และมันสร้างยอดขายกลับมา 5 บาท เท่ากับว่า ROAS ของคุณคือ 5:1 อัตราส่วนที่ตรงไปตรงมานี้จะช่วยให้คุณเห็นได้ทันทีว่าโฆษณาที่ทำอยู่นั้นมีประสิทธิภาพและทำกำไรได้มากน้อยเพียงใด
ทำไม ROAS ถึงสำคัญต่อธุรกิจของคุณ?
- ชี้วัดความคุ้มค่าได้ตรงจุด: ROAS เชื่อมโยงค่าใช้จ่ายโฆษณาโดยตรงกับรายได้ที่เกิดขึ้น ทำให้คุณเห็นได้ชัดเจนว่าแคมเปญของคุณ “ทำกำไรจริงหรือไม่”
- ช่วยวางงบประมาณอย่างชาญฉลาด: เมื่อรู้ว่าแคมเปญไหน, กลุ่มโฆษณาไหน หรือแม้แต่โฆษณาเดี่ยว ๆ ตัวไหนให้ ROAS สูงสุด คุณก็สามารถจัดสรรงบไปยังสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดได้
- ใช้ประเมินประสิทธิภาพได้ทุกแพลตฟอร์ม: ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook หรือ TikTok, ROAS คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยประเมินว่าโฆษณาดิจิทัลของคุณทำงานได้ดีแค่ไหน
ที่ ConvertCake เรามีปรัชญาที่ขับเคลื่อนด้วย Performance อย่างแท้จริง เราเชื่อว่า “ทุกบาทที่คุณใช้ไปกับการตลาด ต้องสร้างการเติบโตที่จับต้องได้ให้ธุรกิจ” ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน Performance Marketing ทีมของเรารู้ลึกถึงวิธีการติดตาม ปรับแต่ง และเพิ่ม ROAS ให้สูงขึ้น เพื่อให้การลงทุนด้านโฆษณาของคุณสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริงต่อธุรกิจ
สูตรและวิธีคำนวณ ROAS (Return on Ad Spend) แบบละเอียด
การเข้าใจวิธีคำนวณ ROAS ถือเป็นก้าวแรกที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าโฆษณาที่ทำไปนั้น “คุ้มค่าจริงหรือไม่” ข่าวดีคือสูตรนี้ไม่ได้ซับซ้อนเลย แต่ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากมันทรงพลังอย่างมาก เพราะการคำนวณ ROAS จะทำให้คุณเห็นชัดเจนว่าทุก ๆ 1 บาทที่ลงไปในโฆษณา สร้างรายได้กลับมาเท่าไหร่ และสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการปรับกลยุทธ์ รับยิงแอด ของคุณให้คุ้มค่ามากขึ้น
การคำนวณ ROAS นั้นง่ายมาก แต่ทรงพลังอย่างยิ่ง สูตรคือ:
ROAS = (รายได้จากโฆษณา ÷ ค่าใช้จ่ายโฆษณา) x 100%
หรือในรูปแบบอัตราส่วน:
ROAS = รายได้จากโฆษณา : ค่าใช้จ่ายโฆษณา
มาลองดูตัวอย่างแบบ Step-by-Step กัน:
ตัวอย่างการคำนวณ ROAS แบบทีละขั้นตอน
- ระบุรายได้ทั้งหมดที่เกิดจากโฆษณา: สมมติว่าแคมเปญ Google Ads ของคุณสร้างยอดขายตรงมา 50,000 บาท
- ระบุค่าใช้จ่ายโฆษณาทั้งหมด: คุณใช้เงินไปกับ Google Ads แคมเปญนี้ 10,000 บาท
- นำสูตร ROAS มาคำนวณ:
ROAS = (50,000 ÷ 10,000) x 100%
ROAS = 5 x 100%
ROAS = 500%
หรือในรูปแบบอัตราส่วน: 50,000 : 10,000 = 5:1
การตีความค่า ROAS
- ROAS 5:1 (หรือ 500%) หมายความว่า ทุก ๆ 1 บาทที่คุณใช้ไปกับโฆษณา สร้างรายได้กลับมา 5 บาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่ดีและแสดงว่าโฆษณาทำกำไรได้จริง
- ROAS 2:1 (หรือ 200%) หมายความว่า ทุก 1 บาทที่ลงทุน สร้างรายได้กลับมา 2 บาท
- ROAS 1:1 (หรือ 100%) หมายความว่าเท่าทุน โฆษณาสร้างรายได้กลับมาเท่ากับเงินที่ใช้ไปพอดี
เมื่อคุณเข้าใจและเชี่ยวชาญการคำนวณแบบง่าย ๆ นี้ คุณจะมองเห็นได้ทันทีว่าโฆษณาของคุณ “ทำงานคุ้มค่า” หรือไม่ ถ้า ROAS สูง แปลว่างบที่ใช้ทำงานได้ดี แต่ถ้าต่ำ ก็ถึงเวลาต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ ที่ ConvertCake เราช่วยธุรกิจวิเคราะห์ ติดตาม และเพิ่ม ROAS อย่างมืออาชีพ เพื่อให้ทุกบาทที่คุณลงทุนกับ รับยิงแอด สร้างผลลัพธ์สูงสุด
ROAS vs. ROI: ความแตกต่างที่นักการตลาดมืออาชีพต้องเข้าใจ
แม้ว่ามือใหม่มักจะใช้ ROAS (Return on Ad Spend) และ ROI (Return on Investment) แทนกัน แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองตัวชี้วัดนี้มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน และวัดผลในมุมที่ไม่เหมือนกันของประสิทธิภาพทางการเงินของธุรกิจ การเข้าใจความแตกต่างนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจด้านการตลาดอย่างมีข้อมูลรองรับ
ROI (Return on Investment) คืออะไร?
ROI เป็นตัวชี้วัดที่กว้างกว่า ใช้ในการวัด “กำไรสุทธิ” ที่เกิดขึ้นจากการลงทุนเมื่อเทียบกับต้นทุนรวมทั้งหมด มันคำนึงถึงค่าใช้จ่ายทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางธุรกิจ ไม่ได้จำกัดเฉพาะค่าใช้จ่ายโฆษณาเพียงอย่างเดียว
สูตร ROI:
ROI = [(รายได้ – ต้นทุนรวมทั้งหมด) ÷ ต้นทุนรวมทั้งหมด] x 100%
ความแตกต่างสำคัญระหว่าง ROAS และ ROI:
ฟีเจอร์ | ROAS (Return on Ad Spend) | ROI (Return on Investment) |
จุดโฟกัส | รายได้ที่เกิดขึ้นโดยตรงจากงบโฆษณา | กำไรที่เกิดขึ้นจากการลงทุนทั้งหมด |
ค่าใช้จ่ายที่รวม | รวมเฉพาะค่าใช้จ่ายโฆษณา | รวมทุกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง (ค่าโฆษณา, ต้นทุนสินค้า, ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน, เงินเดือน ฯลฯ) |
ประเภทของตัวชี้วัด | มุ่งเน้นรายได้ (วัดประสิทธิภาพของโฆษณา) | มุ่งเน้นกำไร (วัดความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของธุรกิจ) |
การใช้งานที่เหมาะสม | ปรับแต่งแคมเปญโฆษณา, กลุ่มโฆษณา หรือโฆษณาเดี่ยว | ประเมินกลยุทธ์ธุรกิจโดยรวม, การเปิดตัวสินค้า, หรือการลงทุนระยะยาว |
ผลลัพธ์ที่ได้ | อัตราส่วนรายได้ต่อค่าใช้จ่ายโฆษณา (เช่น 4:1) | ร้อยละของกำไรเมื่อเทียบกับการลงทุนทั้งหมด (เช่น กำไร 20%) |
ควรใช้ตัวชี้วัดใดเมื่อไหร่
ใช้ ROAS เมื่อต้องการประเมินประสิทธิภาพโดยตรงของแคมเปญโฆษณา มันคือเครื่องมือหลักในการตัดสินใจเชิงข้อมูลอย่างรวดเร็วว่า ควรจัดสรรงบโฆษณาไปที่ไหน, ครีเอทีฟตัวไหนทำงานได้ดี, และแพลตฟอร์มใดให้ผลตอบแทนรายได้สูงสุด
ในขณะที่ ROI เหมาะสำหรับการมองภาพรวมของความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมด ช่วยให้คุณเข้าใจภาพใหญ่ของความสำเร็จด้านการตลาดและสุขภาพโดยรวมของธุรกิจ
ทั้งสองตัวชี้วัดมีความสำคัญต่อความเข้าใจอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับผลลัพธ์ทางการตลาดและการเติบโตของธุรกิจ นักการตลาดมืออาชีพเข้าใจดีว่า ROAS ช่วยปรับแต่ง “เครื่องยนต์การเติบโต” (โฆษณาของคุณ) ในขณะที่ ROI ช่วยตรวจสอบให้แน่ใจว่า “ทั้งยานพาหนะ” (ธุรกิจของคุณ) สร้างกำไร
ที่ ConvertCake เราชำนาญในการวิเคราะห์และปรับปรุงทั้ง ROAS และ ROI ให้ธุรกิจไทยทุกขนาดสามารถใช้ทุกบาทที่ลงทุนกับ รับยิงแอด ให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดและสร้างกำไรอย่างแท้จริง
ROAS ที่ดีคือเท่าไหร่? (ถอดรหัสเกณฑ์มาตรฐานและปัจจัยที่กำหนด)
คำถามที่ว่า “ROAS ที่ดีคือเท่าไหร่?” เป็นคำถามที่พบบ่อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำตอบเดียวที่ใช้ได้กับทุกธุรกิจ ROAS ที่ดีไม่ได้เป็นตัวเลขตายตัว มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อุตสาหกรรมของคุณ, กำไรต่อหน่วย, มูลค่าตลอดชีพของลูกค้า (CLV), แพลตฟอร์มโฆษณา และเป้าหมายธุรกิจเฉพาะของคุณ
เกณฑ์มาตรฐานทั่วไป (เพื่อเป็นจุดเริ่มต้น):
- ROAS 1:1 (100%): โดยทั่วไปหมายถึงคุณพอดีค่าใช้จ่ายโฆษณา คุณครอบคลุมค่าใช้จ่ายโฆษณาด้วยรายได้ที่สร้างขึ้น แม้จะยังไม่มีกำไร แต่สามารถยอมรับได้สำหรับแคมเปญสร้างการรับรู้แบรนด์ หรือธุรกิจที่มีมูลค่าตลอดชีพของลูกค้าสูง
- ROAS 2:1 (200%): สำหรับหลายธุรกิจ ROAS 2:1 มักเป็นเป้าหมายขั้นต่ำ เพื่อครอบคลุมต้นทุนสินค้าขาย (COGS) และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าโฆษณา
- ROAS 4:1 (400%) ขึ้นไป: ถือเป็น ROAS ที่แข็งแรงและดีต่อสุขภาพ แสดงว่าแคมเปญโฆษณามีกำไรสูงและมีส่วนช่วยอย่างมากต่อผลกำไรของธุรกิจ
ปัจจัยที่มีผลต่อ “ROAS ที่ดี”:
- กำไรต่อหน่วย (Profit Margins): ธุรกิจที่มีกำไรต่อหน่วยสูง (เช่น ซอฟต์แวร์ สินค้าหรู) สามารถยอมรับ ROAS ที่ต่ำกว่าและยังทำกำไรได้ เมื่อเทียบกับธุรกิจที่มีกำไรต่อหน่วยน้อย (เช่น ร้านค้าลดราคา)
- มูลค่าตลอดชีพของลูกค้า (CLV): หากลูกค้าของคุณซื้อซ้ำหลายครั้งในอนาคต คุณอาจยอมรับ ROAS เริ่มต้นต่ำสำหรับการได้มาซึ่งลูกค้า เพราะมูลค่าระยะยาวจะทำให้มีกำไร
- ต้นทุนสินค้าขาย (COGS): สินค้าที่มี COGS สูง จำเป็นต้องมี ROAS สูงขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วยังคงมีกำไร
- อุตสาหกรรม: แต่ละอุตสาหกรรมมีการแข่งขันและพฤติกรรมลูกค้าที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เกณฑ์ ROAS เฉลี่ยแตกต่างกัน
ตัวอย่างเช่น ConvertCake สามารถสร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมความงาม โดยมีอัตราแชร์สูงกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมถึง 47% สำหรับลูกค้าของเรา สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการเข้าใจความแตกต่างในแต่ละอุตสาหกรรมเป็นกุญแจสำคัญในการปรับ ROAS ให้เหมาะสม
- แพลตฟอร์มโฆษณา: ROAS อาจแตกต่างกันระหว่างแพลตฟอร์ม เช่น Google Ads, Facebook Ads และ TikTok Ads เนื่องจากความตั้งใจของผู้ชม รูปแบบโฆษณา และโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่ต่างกัน
- เป้าหมายธุรกิจ: คุณต้องการการเติบโตอย่างรวดเร็ว, การเจาะตลาด, หรือการเพิ่มกำไรสูงสุด? ROAS เป้าหมายของคุณจะสอดคล้องกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เหล่านี้
ที่ ConvertCake เราไม่ได้มุ่งแค่การได้ ROAS “ที่ดี” เท่านั้น แต่เรามุ่งไปที่ ROAS ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจเฉพาะและบริบทของอุตสาหกรรม ความเชี่ยวชาญของเราด้านการ รับยิงแอด ช่วยให้เราจัดการความซับซ้อนเหล่านี้ได้อย่างมืออาชีพ และตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้แต่ท้าทายสำหรับแคมเปญโฆษณาของคุณ
7 กลยุทธ์เด็ด จาก ConvertCake เพิ่ม ROAS ให้แคมเปญโฆษณาของคุณสูงสุด
การเพิ่ม ROAS ไม่ใช่เรื่องของการเสกคาถา แต่เป็นการวางแผนและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ConvertCake รวบรวม 7 กลยุทธ์เด็ดที่จะช่วยให้คุณ เพิ่ม ROAS ให้กับแคมเปญโฆษณาของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้
1. ปรับปรุงกลุ่มเป้าหมาย (Audience Targeting)
การเข้าถึงลูกค้าที่ใช่ คือจุดเริ่มต้นของ ROAS ที่ดีที่สุด คุณต้องเข้าใจว่าลูกค้าของคุณคือใคร มีความสนใจอะไร มีพฤติกรรมอย่างไร และอยู่ที่ไหน ใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก Google Analytics, Facebook Audience Insights หรือข้อมูลลูกค้าเดิมเพื่อสร้าง Targeting ที่แม่นยำยิ่งขึ้น การแบ่งกลุ่มเป้าหมายให้ละเอียดยิ่งขึ้น (เช่น Lookalike Audiences, Custom Audiences) จะช่วยลดการใช้จ่ายกับกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้
2. สร้างสรรค์งานโฆษณาที่ดึงดูด (Compelling Ad Creatives & Copy)
แม้จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำแล้ว แต่ถ้าโฆษณาไม่น่าสนใจก็ไร้ประโยชน์ เพราะทั้ง Ad Creative และ Copywriting ต้องโดดเด่น สื่อสารคุณค่าของสินค้าหรือบริการอย่างชัดเจน และกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจ ใช้ภาพหรือวิดีโอคุณภาพสูง, พาดหัวที่น่าสนใจ, และ Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจน เพื่อดึงดูดความสนใจและกระตุ้นการคลิก
3. เพิ่มประสิทธิภาพหน้า Landing Page (Landing Page Optimization)
เมื่อลูกค้าคลิกโฆษณาเข้ามาแล้ว หน้า Landing Page ของคุณต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นลูกค้า การออกแบบที่ใช้งานง่าย, โหลดเร็ว, เนื้อหาตรงกับโฆษณา, และมี CTA ที่ชัดเจน จะช่วยเพิ่ม Conversion Rate ได้อย่างมาก หากหน้า Landing Page ไม่ดีพอ แม้ ROAS ในส่วนของการคลิกจะสูง แต่ก็ไม่สามารถสร้างรายได้ได้จริง
4. ใช้กลยุทธ์ Smart Bidding อย่างชาญฉลาด
กลยุทธ์การประมูลมีบทบาทสำคัญบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Google Ads, Facebook Ads และ TikTok Ads เราใช้กลยุทธ์การประมูลอัตโนมัติขั้นสูง (เช่น Target ROAS, Maximize Conversion Value) พร้อมปรับแต่งด้วยตนเองเมื่อจำเป็น เพื่อประมูลอย่างชาญฉลาดสำหรับการแปลงที่มีมูลค่าสูง ซึ่งช่วยให้ใช้งบโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มรายได้สูงสุด
ความสำเร็จของลูกค้า: สำหรับ LingoAce เราสามารถลดค่าใช้จ่ายต่อ Lead (CPL) ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการปรับแต่งกลยุทธ์การประมูลและการตั้งเป้าหมายอย่างเหมาะสม
5. ใช้ AI-Powered Nano-Influencer Scaling (จุดต่างเฉพาะของ ConvertCake)
นี่คือจุดที่ ConvertCake สร้างนวัตกรรมอย่างแท้จริง เราใช้เครื่องมือคัดกรองด้วย AI เพื่อทำงานร่วมกับ nano-influencers จำนวนมาก วิธีการล้ำสมัยนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 50% เมื่อเทียบกับการตลาดแบบ influencer แบบดั้งเดิม พร้อมเพิ่มความน่าเชื่อถือและการมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม ฟีเจอร์แนะนำของ AI ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเลือก influencer ทำให้เกิดความร่วมมือที่มีประสิทธิผลมากขึ้น และเพิ่ม ROI ให้แคมเปญ ส่งผลให้ ROAS ถูกปรับให้เหมาะสมและลดค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งลูกค้า (CAC)
- ความสำเร็จของลูกค้า: สำหรับคลินิกทันตกรรมอย่าง Smile Seasons เราสามารถลด CAC ได้ 20% โดยส่วนหนึ่งมาจากการระบุและใช้ช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่าที่สุด
6. ทำ A/B Testing อย่างต่อเนื่อง
การปรับแต่งแคมเปญเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เราทำการทดสอบ A/B อยู่เสมอ ทั้งกับครีเอทีฟโฆษณา ข้อความ เนื้อหาบนหน้า Landing Page และกลุ่มเป้าหมาย วิธีการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนี้ช่วยให้เราระบุได้อย่างแม่นยำว่าอะไรได้ผลดีที่สุด เพื่อปรับปรุงอย่างเป็นขั้นตอน และทำให้แคมเปญของคุณมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ ROAS สูงสุด
7. ระบบ Tracking & Reporting ที่โปร่งใส ด้วย Real-Time Data Dashboards
เราให้ข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญ รวมถึง ROAS เพื่อให้คุณสามารถติดตามความก้าวหน้าและเข้าใจผลลัพธ์ของการตัดสินใจแต่ละครั้งได้อย่างโปร่งใส ทีมของเรายังแนะนำกลยุทธ์ใหม่ ๆ อย่างเชิงรุกเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โฆษณาของคุณไม่ใช่แค่ “รันไปเรื่อย ๆ” แต่ปรับตัวและพัฒนาอยู่เสมอเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
กลยุทธ์เหล่านี้ ผสานกับ มุมมองเจ้าของกิจการ และ ความมุ่งมั่นในการยกระดับผลลัพธ์ของคุณ คือสิ่งที่ทำให้ ConvertCake มั่นใจได้ว่า ทุกงบประมาณที่คุณลงทุนใน บริการ รับยิงแอด กับเรา จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ความเชี่ยวชาญของเราช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งแคมเปญ เพิ่ม ROAS และสร้างผลลัพธ์ที่วัดได้จริง ซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
ทำไมการได้ ROAS สูงกับ ConvertCake ถึง “ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก”
ในโลกการตลาดดิจิทัลที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด แค่ “ลงโฆษณา” อย่างเดียวไม่เพียงพอ คุณต้องการพันธมิตรที่เข้าใจธุรกิจของคุณจริง ๆ และส่งมอบผลลัพธ์ที่วัดได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้ ConvertCake โดดเด่นในฐานะเอเจนซี่ Performance Marketing ที่ทำให้การบรรลุและรักษา ROAS สูงเป็นเรื่อง “ปอกกล้วยเข้าปาก” สำหรับลูกค้าของเรา
ทำไมการบรรลุ ROAS สูงกับ ConvertCake ถึง “ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก”
ในโลกการตลาดดิจิทัลที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด แค่ “ลงโฆษณา” อย่างเดียวไม่เพียงพอ คุณต้องการพันธมิตรที่เข้าใจธุรกิจของคุณจริง ๆ และส่งมอบผลลัพธ์ที่วัดได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้ ConvertCake โดดเด่นในฐานะเอเจนซี่ Performance Marketing ที่ทำให้การบรรลุและรักษา ROAS สูงเป็นเรื่อง “ปอกกล้วยเข้าปาก” สำหรับลูกค้าของเรา
ทำไมการบรรลุ ROAS สูงกับ ConvertCake ถึง “ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก”
ในโลกการตลาดดิจิทัลที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด แค่ “ลงโฆษณา” อย่างเดียวไม่เพียงพอ คุณต้องการพันธมิตรที่เข้าใจธุรกิจของคุณจริง ๆ และส่งมอบผลลัพธ์ที่วัดได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้ ConvertCake โดดเด่นในฐานะเอเจนซี่ Performance Marketing ที่ทำให้การบรรลุและรักษา ROAS สูงเป็นเรื่อง “ปอกกล้วยเข้าปาก” สำหรับลูกค้าของเรา
เหตุผลที่ธุรกิจไว้วางใจ ConvertCake
- พันธมิตรที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง: การเดินทางของเรามีจุดเริ่มต้นจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซเล็ก ๆ ที่ขายบิกินีออนไลน์ ซึ่งทำให้เราเข้าใจความท้าทายของการสร้างยอดขายออนไลน์และทำการตลาดด้วยตนเองอย่างลึกซึ้ง เราสร้าง ConvertCake ขึ้นมาในฐานะ “เอเจนซี่ที่เราเองอยากมีเป็นพาร์ตเนอร์” และสิ่งนี้ได้กลายเป็นปรัชญาหลักที่สะท้อนชัดใน “4 คำมั่นสัญญา” ต่อทุกลูกค้า:
- “เราจะเข้าใจและดูแลแบรนด์ของคุณอย่างลึกซึ้งเหมือนที่คุณทำ”
- “เราจะปรับปรุง Performance ของคุณให้ดีขึ้น”
- “เราจะคิดในมุมเจ้าของธุรกิจ”
- “เราจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในระยะยาว”
เราดูแลธุรกิจและงบประมาณของคุณเหมือนเป็นของเราเอง มุ่งหาการเติบโตที่ยั่งยืนเสมอ
- โฟกัสที่ผลลัพธ์ Performance-Driven อย่างไม่สั่นคลอน: ชื่อ ConvertCake ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เราหมกมุ่นกับ Conversions และ ROI เรามุ่งเน้นเฉพาะ Metrics ที่สำคัญจริง ๆ เช่น ROAS, CPL, CAC และท้ายที่สุดคือรายได้ของคุณ ผลงานที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ เช่น การสร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ให้กับบริษัทก่อสร้าง B2B อย่าง Rakmao และการเพิ่ม Conversion ให้กับ Jaspal & Sons Co., Ltd.
- การรายงาน ROI ที่โปร่งใส & Real-Time Data: หมดปัญหาการคาดเดา เรานำเสนอการรายงาน ROI ที่ครอบคลุมและโปร่งใสผ่าน Real-Time Dashboard คุณจะเห็นผลลัพธ์แคมเปญและ ROAS แบบอัปเดตตลอดเวลา เพื่อใช้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
- นวัตกรรมโซลูชัน AI-Powered: เราไม่ใช่แค่ “ตามเทรนด์” แต่เรานำด้วยนวัตกรรมจริง ๆ โดยเฉพาะการใช้ AI ในการทำ Nano-Influencer Scaling ที่ช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมได้อย่างคุ้มค่าและจริงใจ ลดต้นทุนได้มากถึง 50% เมื่อเทียบกับ Influencer Marketing แบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันและผลักดัน ROAS ให้ดียิ่งขึ้น
- การแนะนำกลยุทธ์เชิงรุก: เราไม่ได้เป็นเพียงทีมที่ “แค่รันโฆษณา” แต่เราเป็น พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่ช่วยคิดและแนะนำกลยุทธ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าเสมอ เพื่อพัฒนา Performance อย่างต่อเนื่อง ลูกค้าของเรายกย่องทีม ConvertCake ในการ “ช่วยคิด ช่วยวางกลยุทธ์ใหม่ ๆ ให้ธุรกิจเติบโตได้จริง” เสียงรีวิวจากลูกค้า ดังนี้
- “ทีมดูแลทุกอย่างตั้งแต่ Creative, Copywriting จนถึงการ Optimize โฆษณา ทำให้แคมเปญมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมายเสมอ”
- “พวกเขายังช่วยแนะนำกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อปรับ Performance ตลอดเวลา…มันช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้จริง”
ทำไมต้อง ConvertCake?
เมื่อคุณเลือก ConvertCake เอเจนซี่ Performance Marketing ชั้นนำในกรุงเทพฯ ประเทศไทย คุณกำลังเลือกทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทุ่มเทให้กับการทำให้ทุกบาทที่คุณลงทุนใน บริการ รับยิงแอด กับเรา สร้างผลลัพธ์สูงสุด ด้วยความรู้เชิงลึกและการทำงานแบบลงมือจริง เราช่วยให้แคมเปญโฆษณาของคุณถูกปรับแต่งเพื่อความคุ้มค่า กำไรสูงสุด และการเติบโตที่วัดผลได้จริง
บทสรุป: ROAS คืออะไร?
ROAS (Return on Ad Spend) ไม่ได้เป็นเพียงตัวชี้วัด แต่คือ “เข็มทิศ” ที่บอกทิศทางความคุ้มค่าของการโฆษณาออนไลน์ แม้สูตรการคำนวณจะง่าย แต่การทำให้ ROAS แข็งแรงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ต้องอาศัยการติดตามอย่างใกล้ชิด การปรับกลยุทธ์อย่างชาญฉลาด และความเชี่ยวชาญเชิงลึก
การเพิ่ม ROAS ไม่ใช่แค่การทำตัวเลขให้สวยขึ้น แต่คือการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ คุณจะตัดสินใจใช้งบประมาณได้อย่างชาญฉลาด ปรับแต่งแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างรายได้เพิ่มจากการลงทุนใน บริการ รับยิงแอด
อย่าปล่อยให้งบโฆษณาของคุณขึ้นอยู่กับความเสี่ยง เลือกเป็นพาร์ตเนอร์กับทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Performance Marketing ของ ConvertCake แล้วคุณจะได้เห็นว่า What is ROAS? ในการปฏิบัติจริงคืออะไร เราจะช่วยเปลี่ยนโฆษณาของคุณให้กลายเป็นเครื่องจักรสร้างการเติบโต ทำให้การเพิ่ม Conversion และ ROAS เป็นเรื่องง่ายเหมือน ปอกกล้วยเข้าปาก
Related Blogs
การบริหารจัดการ Cost Per Install (CPI) อย่างเชี่ยวชาญ: คู่มือสู่ความสำเร็จในการตลาดแอป
CPL (Cost Per Lead) คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับการคำนวณและเพิ่มประสิทธิภาพ